Update Your Style
The Importance of Having Care Labels
ก.พ.
เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยสงสัยว่าสัญลักษณ์ต่างๆนาๆที่ติดพ่วงมากับป้าย Tag ต่างๆบนเสื้อผ้านั้นหมายความว่าอะไรกันบ้าง เพราะว่าสัญลักษณ์เหล่านั้นช่างมีเยอะแยะมากมายเสียเหลือเกิน บางอันก็เห็นบ่อย บางอันก็ไม่เคยเห็น แล้วแต่ละอันมันกำลังบอกอะไรเราอยู่กันแน่ วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับสัญลักษณ์ป้าย Care Labels ที่พบเจอกันครับก็หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนในการดูแลรักษาเสื้อผ้าให้มีอายุการใช้งานที่สมควรไม่เสียหายก่อนวัยอันควร ยังไงก็อย่าลืมสนใจป้าย Care Labels บนเสื้อผ้าตัวโปรดของคุณกันซักนิดก่อนที่จะทำเสียของโดยไม่รู้ตัว
Washing
สัญลักษณ์กลุ่มแรกจะกล่าวถึงเรื่องของ การซัก โดยจะแทนด้วยสัญลักษณ์เป็นรูปหน้าตัดด้านข้างของภาชนะใส่น้ำโดยจะโฟกัสไปที่การซักเครื่องซะมากกว่า โดยสามารถนำไปผสมกับสัญลักษณ์อื่นๆเพื่อให้ได้ความหมายอื่นอีกด้วย เช่นการผสมเข้ากับสัญลักษณ์ของ อุณหภูมิ (จุด) ก็ใช้ระบุว่าควรซักเครื่องในอุณภูมิเย็นร้อนมากน้อยตามจำนวนจุด การเติมสัญลักษณ์ของ การปั่น (ขีดข้างใต้) ก็ใช้ระบุความแรงในการปั่นตามจำนวนขีด หรือการเพิ่มรูปมือเข้าไปก็แปลได้ง่ายๆว่าต้องซักมือ หรือถ้ากากบาททับสัญลักษณ์การซักไปเลยก็แปลว่าห้ามซัก โดยส่วนมากเงื่อนไขต่างๆเกี่ยวกับการซักนั้นจะพบในเนื้อผ้าที่ค่อนข้างมีความบอบบางหรือ Sensitive ต้องควบคุมความหนักเบา หรืออุณหภูมิในการซักเพื่อรักษาสภาพเนื้อผ้าไว้ให้ดีที่สุด
Tumble Dry
รูปวงกลมที่มีกรอบสี่เหลี่ยมล้อมรอบเป็นสัญลักษณ์ของการอบแห้งหรือการปั่นแห้งนั่นเอง เช่นกันกับสัญลักษณ์ การซัก ที่เมื่อเติมจุดหรือขีดไปข้างใต้จะเป็นการระบุเรื่องของอุณหภูมมิและความแรง ซึ่งอาจจะไม่นิยมในบ้านเรานักเพราะวิธีการนี้ถูกออกแบบมาสำหรับประเทศที่แสงแดดไม่เพียงพอในการตากผ้า ส่วนใหญ่มักไม่พบผ้าชนิดไหนที่จำเป็นต้องใช้การอบแห้งเท่านั้น เหมือนเป็นทางเลือกเสียมากกว่า แต่ก็มีเนื้อผ้าจำพวกผ้าวูลหรือขนสัตว์ที่มักจะห้ามอบแห้ง เพื่อรักษา Texture อันเป็นเอกลักษณ์ของผ้าไว้
Dry Cleaning
การซักแห้งจะถูกแทนด้วยสัญลักษณ์วงกลม โดยการซักแห้งจะต่างจากศัญลักษณ์ของ การซัก หรือ การอบ ที่กล่าวไปก่อนหน้านิดหน่อย ตรงที่การซักแห้งจะไม่มีสัญลักษณ์ระบุอุณภูมิหรือความแรงแต่จะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษในการบ่งบอกถึงชนิดของตัวทำละลายที่สามารถใช้ได้แทน โดยถ้าตัว A อยู่กลางวงกลมหมายถึงสามารถใช้สารเคมีตัวทำละลายในการซักแห้งได้ทุกชนิด แต่ถ้าเป็นตัว P ก็จะสามารถใช้ได้แค่เฉพาะน้ำยาซักแห้งจำพวก PCE หรือ Perchloroethyene (พวกตัวทำละลายไขมัน เป็นน้ำยาซักแห้งเฉพาะทาง) เท่านั้น และถ้าใช้ตัว F แทนก็จะใช้ได้เฉพาะน้ำยาซักแห้งที่มีสารละลายประเภท Silicone เท่านั้น เช่นกันกับสัญลักษณ์อื่นๆหากถูกกากบาททับวงกลมไปก็แปลว่าห้ามซักแห้งจ้า จะพบมากในวัสดุที่ไม่เหมาะกับการใช้น้ำในการทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็น วูล ขนสัตว์ ที่อุ้มน้ำเป็นพิเศษและเสียหายจากน้ำได้ง่าย หรือพวก ลินิน ที่ค่อนข้างบอบบางต่อวิธีการทำความสะอาดอื่นๆ
Bleach
การฟอกขาวจะใช้สัญลักษณ์สามเหลี่ยมก็จะมีสัญลักษณ์เสริมที่เฉพาะตัวต่างจากสัญลักษณ์อื่นๆอยู่พอสมควร ตัวอักษร Cl กลางสามเหลี่ยมสื่อถึงการต้องใช้สารฟอกที่มีส่วนผสมของคลอรีน กลับกันหากมีขีดแนวแทยงสองขีดด้านในสามเหลี่ยมนั่นแปลว่าห้ามใช้สารฟอกที่มีส่วนผสมของคลอรีน เช่นเคยหากกากบาททับก็แปลว่าห้ามฟอกด้วยประการทั้งปวง แน่นอนว่าการฟอกขาวจะเหมาะกับเสื้อผ้าสีขาวหรือสีสว่างที่เปรอะเปื้อนได้ง่าย จึงไม่แปลกที่จะเห็นสัญลักษณ์ห้ามฟอกขาวบนเสื้อผ้าที่มีสีสัน เพราะไม่งั้นจะเกิดความเสียหายได้ง่ายๆแหละ
Ironing
สัญลักษณ์รูปด้านข้างของเตารีดก็พูดถึง การรีด อย่างตรงไปตรงมา สัญลักษณ์จุดถูกใช้แทนอุณหภูมิเช่นเคย จะมีเพิ่มเติมขึ้นมาคือสัญลักษณ์ขีดสองขีดลักษณะคล้ายกรวยที่ใต้ของเตารีดดูไปดูมาก็แอบนึกถึงลำแสงจาก UFO สัญลักษณ์นี้บอกถึงการรีดด้วยไอน้ำ ซึ่งผ้าที่มีความเบาบางและมี Texture เฉพาะตัวอย่าง Hemp มักจะถูกระบุไว้ให้ใช้ความร้อนต่ำในการรีด หรือผ้าสังเคราะห์อย่างพวก Polyester ต่างๆก็อาจจะถูกระบุไว้ว่าห้ามรีด หรือให้ใช้การรีดไอน้ำเท่านั้นด้วยคุณสมบัติการทนความร้อนที่ต่ำของตัวเนื้อผ้า
Drying
สุดท้ายกันกับ การตาก ที่ใช้สี่เหลี่ยมจตุรัสเป็นสัญลักษณ์ จะยากหน่อยก็ตรงสัญลักษณ์ประกอบอื่นๆที่มีมากมายเสียเหลือเกิน อย่างเส้นแทยงเฉียงๆสองเส้นหมายถึงการตากในที่ร่ม หรือถ้าเป็นเส้นแนวตั้งสามเส้นตรงกลางจะหมายถึงการตากระหว่างผ้ายังหมาดๆ ถ้าเป็นเส้นแนวขวางตรงกลางจะเป็นการบอกว่าต้องตากแนวราบ เช่นเคยกับการกากบาทคือห้ามตาก แถมด้วยอีกสัญลักษณ์พิเศษสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอนที่ถูกบิดและถูกกาบาททับ นั่นก็คือ ห้ามบิด นั่นเอง ซึ่งเงื่อนไขการตากต่างๆมักจะพบมากกับผ้าที่ยับและคืนทรงได้ยากจึงห้ามตากไป หรือเนื้อผ้าที่ไม่ทนกับแสงแดดก็จะแนะนำให้ตากในที่ร่มไป
